ความรู้เรื่องอินเตอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต
(Internet)
มาจากคำว่า Interconnection Network หมายถึง "เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก โดยใช้โปรโตคอล (Protocol ) เป็นมาตรฐานในการติดต่อสื่อสาร
เครือข่ายคอมพิวเตอร์
: โปรโตคอล ชุดของกฎหรือข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถรับ-ส่งข้อมูลระหว่างกันได้ถูกต้อง
IPX/SPX เป็นโปโตคอลที่ใช้ในเครือข่ายที่ใช้ระบบปฏิบัติการ
Netware NetBIOS และNetBEUI
เป็นโปรโตคอลที่บริษัทไอบีเอ็ม พัฒนาร่วมกับบริษัท ไมโครซอฟต์
ใช้ในเครือข่ายที่ใช้ระบบปฏิบัติการWindows เวอร์ชั่นต่าง
ๆ TCP/IP เป็นโปรโตคอลที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบอินเทอร์เน็ตและมีแนวโน้มว่าจะถูกนำมาใช้แทนโปรโตคอลอื่น
ๆ ในอนาคต
อินเทอร์เน็ต
:
ประวัติ อินเตอร์เน็ตพัฒนาขึ้นเมื่อ
ค.ศ. 1969 ในยุคสงครามเย็นระหว่าง
สหรัฐกับสหภาพโซเวียตที่แข่งขันกันพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
โซเวียตส่งดาวเทียมดวงแรกสู่ห้วงอวกาศอเมริกาจึงเริ่มพัฒนาเครือข่ายสื่อสารทางทหารชื่อ
ARPANET
ขึ้น โดยออกแบบระบบให้เหมือนร่างแหที่กระจายไปทั่ว
ให้มั่นใจว่าหากถูกถล่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์เครือข่ายก็จะไม่ถูกตัดขาด
ยังมีทางส่งข้อมูลอ้อมไปได้
เมื่อภาวะสงครามคลายลงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไม่มีความจำเป็นที่จะใช้เฉพาะเครือข่ายทางการทหารอีกต่อไป
เครือข่ายจึงขยายตัวออกไปสู่ธุรกิจด้านต่างๆทั่วโลก
มีการเชื่อมต่อนับพันล้านเครื่องในเวลาที่รวดเร็ว
มีการเชื่อมต่อผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมอยู่เดิมมากขึ้นเป็นลำดับ
ผู้เชื่อมต่อต้องลงทุนอุปกรณ์ เครื่องมือรวมถึงจ่ายค่าสัมปทานจากรัฐ ผู้ให้บริการเชื่อมต่อเรียกว่า
ISP
(Internet Service Povider) เก็บค่าบริการต่างกันขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อ
ความเร็ว เวลาการใช้งาน
ค.ศ.1973
(พ.ศ.2516)
มีการเชื่อมโยงเครือข่ายอาร์พาเน็ต กับมหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ
และได้เชื่อมโยงเข้ากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์กลุ่มอื่น ๆ อีกหลายเครือข่ายทั้งในยุโรปและอเมริกาเช่น
l NSFNET
(National Science Foundation Network)
l CSNET
( Computer Science Network)
l EUNET
(European Unix Network )
เกิดเป็นเครือข่ายในลักษณะ “เครือข่ายของเครือข่าย”
อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
ปี พ.ศ. 2529 อาจารย์กาญจนา
กาญจนสุต จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (AIT)
ร่วมกับอาจารย์โทโมโนริ คิมูระ จากสถาบันเดียวกัน ร่วมสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์
โดยอาศัย
- โมเด็ม NEC ความเร็ว 2400 Baud
- เครื่องคอมพิวเตอร์พีซี NEC
- สายโทรศัพท์ทองแดง
- โมเด็ม NEC ความเร็ว 2400 Baud
- เครื่องคอมพิวเตอร์พีซี NEC
- สายโทรศัพท์ทองแดง
baud ตั้งชื่อตามวิศวกรและผู้ประดิษฐ์โทรเลขชาวฝรั่งเศส
ชื่อว่า ยังมอริส - อีมิล โบด็อท (jean - Maurice - Emile Baudot) เดิมใช้วัดความเร็วของการส่งโทรเลข
ปัจจุบันใช้วัดความเร็วของการถ่ายทอดสัญญาณของโมเด็ม (modem)
ต่อมาเปลี่ยนไปใช้บริการไทยแพค
ผ่านการหมุนโทรศัพท์ไปยังการสื่อสารแห่งประเทศไทย
ทำการรับส่งอีเมล์กับมหาวิทยาลัยโตเกียวมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น และบริษัท UUNET
ที่เวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา
หลังจากนั้นรัฐบาลออสเตรเลีย
ภายใต้โครงการ The International Development Plan (IDP) ได้ให้ความช่วยเหลือมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย พัฒนาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไทยขึ้นมาในปี พ.ศ. 2531 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย
เป็นศูนย์กลางของประเทศไทยเชื่อมโยงแม่ข่ายไปที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ตั้งชื่อโครงการนี้ว่า TCSNet
(Thai Computer Science Network) มีการติดต่อผ่านเครือข่ายวันละ 2 ครั้ง จ่ายค่าใช้จ่ายปีละ 4 หมื่นบาท และใช้ซอฟต์แวร์
SUNIII ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ UNIX ที่แพร่หลายในออสเตรเลีย (Australian
Computer Science Network - ACSNet)
นอกจากนี้สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย
ยังเป็นศูนย์เชื่อม (Gateway)
ระหว่างประเทศไทย กับ UUNET อันส่งผลให้นักวิชาไทยทั่วไป
สามารถใช้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ได้อย่างกว้างขวาง
ปัจจุบัน
UUNet
เป็น ISP ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มีเครือข่ายทั่วสหรัฐ ให้บริการ connection ตั้งแต่ 28.8
Kbps ถึง 155 Mbps
และยังเชื่อมต่อไปยังทวีปยุโรป เอเชีย และ ออสเตรเลียด้วย รวมๆ แล้ว UUNet
บริการ Internet ถึง 114
ประเทศ
การให้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย
ได้เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ เดือน มีนาคม พ.ศ. 2538 โดยความร่วมมือของรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง
เป็นบริษัทถือหุ้นระหว่างการสื่อสารแห่งประเทศไทย
องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยและสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ
(สวทช.) โดยให้บริการในนาม บริษัท อินเทอร์เน็ต ประเทศไทย (Internet
Thailand)
บริษัท
อินเทอร์เน็ต ประเทศไทย (Internet Thailand)
โดยใช้สายเช่าครึ่งวงจรขนาด 512 Kbps ไปยัง UUNet เป็นผู้ให้บริการ อินเทอร์เน็ต
เชิงพาณิชย์รายแรกของประเทศไทย
ปัจจุบันมีองค์กรคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ
กทช.
ทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมให้เกิดการแข่งขันเสรีเป็นธรรม ทำให้ปัจจุบันมีผู้ให้บริการ อินเทอร์เน็ต
ในประเทศไทย ถึง 59 ราย
เปิดเสรีให้ผู้ที่มีศักยภาพ โดยเสียค่าธรรมเนียมในอัตราที่ถูก ผู้ให้บริการสามารถพัฒนาคุณภาพบริการให้สูงที่สุดและในราคาถูกที่สุดได้
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
ยุคเริ่มแรกจนถึงปัจจุบันใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสาย (Fixed Line Access) โดยเริ่มตั้งแต่ผ่านสายโทรศัพท์พื้นฐานพัฒนาเรื่อยมาจนเป็นใยแก้วนำแสงในปัจจุบัน อินเทอร์เน็ต ในอดีตการเข้าถึงโครงข่ายใช้คอมพิวเตอร์ต่อผ่านโทรศัพท์บ้าน ผ่านโมเด็มเป็นอุปกรณ์โทรฯเรียกเข้าศูนย์ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider: ISP) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Dial Up คิดค่าบริการเป็นชั่วโมง
ยุคเริ่มแรกจนถึงปัจจุบันใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสาย (Fixed Line Access) โดยเริ่มตั้งแต่ผ่านสายโทรศัพท์พื้นฐานพัฒนาเรื่อยมาจนเป็นใยแก้วนำแสงในปัจจุบัน อินเทอร์เน็ต ในอดีตการเข้าถึงโครงข่ายใช้คอมพิวเตอร์ต่อผ่านโทรศัพท์บ้าน ผ่านโมเด็มเป็นอุปกรณ์โทรฯเรียกเข้าศูนย์ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider: ISP) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Dial Up คิดค่าบริการเป็นชั่วโมง
การใช้
โมเด็มโทรฯเรียกเข้าศูนย์บริการมีอัตราการส่งข้อมูลที่ 28.8 kbps เนื่องจากว่าสายโทรศัพท์ที่ทำจากลวดทองแดง
มีคุณสมบัติให้สัญญาณทางไฟฟ้าที่มีความถี่ไม่เกิน 28
กิโลเฮิร์ซ หรือ 28 กิโลบิตต่อวินาที
การเชื่อมต่อแบบหมุนโทรศัพท์
( Dial up connection ) เป็นวิธีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้สายโทรศัพท์
และติดต่อผ่านโมเด็ม(Modem) เพื่อติดต่อกับคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตซึ่งโดยทั่วไปได้แก่
ISP (Internet Service Provider)
ปลายศตวรรษที่
20 เทคโนโลยีโมเด็มได้ถูกพัฒนาความเร็วเพิ่มขึ้นด้วยเทคโนโลยีการบีบอัดข้อมูล
(Data
Compression) สามารถส่งความเร็วได้สูงถึง 56 kbps ภายใต้ข้อจำกัดอัตราการรับส่งข้อมูลของโครงข่ายสายทองแดงเดิมที่มีอยู่ทั่วโลก
ยุคอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง พัฒนาการรับส่งข้อมูลผ่านสายทองแดง
เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุค Digital Subscriber Line หรือ DSL พัฒนาการรับส่งข้อมูลผ่านสายลวดทองแดง
ให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้สามารถรับส่งข้อมูลความเร็วได้ตั้งแต่ 5
Mbps จนกระทั่งถึง 100 Mbps
DSL ย่อมาจาก
Digital Subscriber Lineคือเทคโนโลยีโมเด็ม
ที่ทำให้คู่สายทองแดงธรรมดา ให้กลายเป็นสื่อสัญญาณดิจิตอล ความเร็วสูง
โดยใช้เทคนิคการเข้ารหัสสัญญาณข้อมูล (Modulation)
ในย่านความถี่ที่สูงกว่าการใช้งานโทรศัพท์โดยทั่วไป ทำให้เราสามารถส่งข้อมูล
ในขณะเดียวกับการใช้งานโทรศัพท์ได้
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสื่ออื่นๆ
นอกจากนั้นยังมีการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงผ่านข่ายสายไฟฟ้า (Broadband Power Line) ล่าสุดผู้ให้บริการไฟฟ้าทั้งสามแห่งได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมจาก กทช. ให้สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านสายไฟฟ้าในประเทศได้ ต่อมาเทคโนโลยีไร้สายเริ่มแพร่หลายในวงการโทรคมนาคมโดยเริ่มจากการใช้ WiFi ของ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายนอกจากนั้นก็ยังมีการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียมที่รู้จักกันในนาม iPSTAR เรียกได้ว่าเป็นดาวเทียมแบบ interactive ดวงแรก และพัฒนาเป็น WISP หรือ Wireless ISP ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ การเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงไร้สายที่เรียกโดยรวมว่า Broadband Wireless Access (BWA) หรือชื่อทางการค้าอย่าง WiMax เป็นต้น WiMAX กล่าวให้เข้าใจง่ายคือ การเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตไร้สาย ที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างเป็น สิบๆ กิโลเมตร
นอกจากนั้นยังมีการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงผ่านข่ายสายไฟฟ้า (Broadband Power Line) ล่าสุดผู้ให้บริการไฟฟ้าทั้งสามแห่งได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมจาก กทช. ให้สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านสายไฟฟ้าในประเทศได้ ต่อมาเทคโนโลยีไร้สายเริ่มแพร่หลายในวงการโทรคมนาคมโดยเริ่มจากการใช้ WiFi ของ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายนอกจากนั้นก็ยังมีการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียมที่รู้จักกันในนาม iPSTAR เรียกได้ว่าเป็นดาวเทียมแบบ interactive ดวงแรก และพัฒนาเป็น WISP หรือ Wireless ISP ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ การเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงไร้สายที่เรียกโดยรวมว่า Broadband Wireless Access (BWA) หรือชื่อทางการค้าอย่าง WiMax เป็นต้น WiMAX กล่าวให้เข้าใจง่ายคือ การเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตไร้สาย ที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างเป็น สิบๆ กิโลเมตร
สภาพตลาดบริการอินเทอร์เน็ต
ปัจจุบันมีคนไทยใช้
อินเทอร์เน็ต ประมาณ 10 ล้านคน
มีผู้รับใบอนุญาตเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ต จาก กทช. ทั้งสิ้น 59 ราย
บริการบนอินเทอร์เน็ต
World Wide Web เป็นเครือข่ายย่อยของอินเทอร์เน็ตที่เกิดขึ้นในปี
1989 โดย ทิม เบอร์เนอร์ ลี นักวิศวกรรมซอฟต์แวร์จากห้องปฏิบัติการ ทางจุลภาคฟิสิกส์แห่งยุโรปหรือ CERN (Conseil European pour la Recherche Nucleaire) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โดยใช้ตัวอักษรและภาพกราฟิก ข้อมูลจะอยู่ในลักษณะของมัลติมีเดีย แสดงผลในรูปของ hypertext
links
บริการค้นหาข้อมูลผ่านเครือข่าย
WWW (World Wide Web) WWW เป็นบริการที่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลต่างๆ
ในอินเทอร์เน็ตได้ง่ายและสะดวก
ด้วยลักษณะของการแสดงผลในรูปของ Hypertext Links
ซึ่งเป็นวิธีการที่จะเชื่อมโยงข้อมูลจากเอกสารหนึ่งไปยังเอกสารอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก
WWW จะอยู่ในลักษณะของมัลติมีเดีย
(Multimedia) คือ มีทั้งตัวอักษร รูปภาพ เสียง
และภาพเคลื่อนไหว ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลเกือบทุกประเภทผ่านทางเครือข่ายนี้ได้
ไม่ว่าเป็นบทความ ข่าว งานวิจัยข้อมูลสินค้า หรือบริการต่างๆ
สาระบันเทิงประเภทต่างๆ
รวมถึงฟังเพลงและชมภาพยนตร์
ค.ศ.1991 หลังจากมีระบบอินเทอร์เน็ตขึ้นในโลก Time Berners Lee ได้ใช้เทคโนโลยีต่างๆออกแบบWorld wild
web ขึ้นก่อให้เกิดประโยชน์ในการเชื่อมโยงสารสนเทศจากห้องสมุดต่างๆ อย่างกว้างขวางและแพร่หลายในลักษณะของสื่อประสม
โปรแกรมค้นดูเว็บ
(Web
Browser ) โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์จะทำงานโดยดึงข้อมูลซึ่งจัดเก็บอยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า
HTML (HyperText MarkupLanguage) มาจากเว็บเซิร์ฟเวอร์และแปลความหมายของรูปแบบข้อมูล
ที่ได้กำหนดเอาไว้เพื่อนำเสนอแก่ผู้ใช้
Microsoft
Internet Explorer (IE) เป็นเว็บเบราว์เซอร์ ที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุด ผลิตโดย บริษัท Microsoft มีประสิทธิภาพสูงเป็นโปรแกรมที่จัดให้มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ
windows ตั้งแต่ windows 95 เป็นต้นไป
Plawan Browser พัฒนาโดยคนไทย
สามารถใช้งานได้ดีในระดับเดียวกับเว็บบราวเซอร์ชั้นแนวหน้าอื่นๆ
แต่มีความสะดวกในการใช้งานมากกว่าทั้งนี้เนื่องจากเมนู
การใช้งานสามารถสลับภาษาภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้
โฮมเพจ
เว็บเพจ และเว็บไซต์ (home page , web page และ web site)
l web
page หน้าเอกสารที่เป็นกระดาษแต่ละหน้า
l home
page หน้าแรกที่ผู้ใช้จะพบเมื่อเรียกเข้าไปยังเว็บไซต์ใด
l Web
Site
โฮมเพจและเว็บเพจหลาย ๆ หน้าซึ่งเป็นของหน่วยเดียวกัน
เว็บเซิร์ฟเวอร์
(web
server) คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลทุกอย่างที่แสดงผลในเว็บไซต์ ในรูปแบบของเอกสาร HTML โดยเว็บเซิร์ฟเวอร์จะทำหน้าที่ส่งเอกสาร
HTML ไปแสดงผลในเว็บบราวเซอร์ของผู้ใช้เมื่อมีการเรียกใช้
วัตถุประสงค์ในการใช้อินเทอร์เน็ต
1.
เพื่อการสื่อสาร (communication)
2.
เพื่อข้อมูลข่าวสาร (information)
3.
เพื่อความบันเทิง (entertainment)
4.
เพื่อดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ
(business)
ระบบการแทนชื่อในอินเทอร์เน็ต
การเรียกชื่ออินเทอร์เน็ต มี 3 ระดับดังนี้
1.
IP Address (Internet Protocol
Address)
2.
DNS (Domain Name System)
3.
URL (Uniform Resource Locator)
IP Address เป็นหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะเป็นหมายเลขให้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ
เชื่อมโยงถึงได้ แต่หมายเลขจำยาก
จึงเทียบเคียงเป็นตัวอักษร
Domain Name System คือ
ระบบการแทนหมายเลขไอพีของเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยชื่อที่สื่อความหมายและเข้าใจได้ง่าย เนื่องจากการจดจำหมายเลข IP ทำให้ยุ่งยาก และไม่สามารถจำได้
โดเมนเนมระดับสูงสุด
(top level
domain) คือส่วนที่อยู่ตำแหน่งขวาสุด
เป็นส่วนที่บอกชื่อประเทศและลักษณะขององค์กร แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
*
โดเมนเนมระดับสูงสุดที่บอกถึงประเทศเจ้าของโดเมน
*
โดเมนเนมระดับสูงสุดที่บอกถึงประเภทของ องค์กรเจ้าของโดเมน
โดเมนเนมระดับรอง
(second level domain) ใช้คู่กับโดเมนเนมระดับสูงสุดที่บอกชื่อประเทศ
เพื่อระบุประเภทขององค์กรเหล่านั้น
โดเมนเนมระดับที่สาม
(third level domain) เป็นส่วนของโดเมนที่ระบุชื่อขององค์กร
URL (Uniform
Resource Locator) เป็นหลักการกำหนดชื่ออ้างอิงของทรัพยากรต่าง
ๆ ที่อยู่ภายในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
สามารถบ่งบอกชื่อหรือแอดเดรสของเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย
และโปรโตคอลที่ใช้งาน URL ย่อมาจาก Uniform Resource
Locator หมายถึงรหัสค้นข้อมูลบนข่ายงานอินเตอร์เน็ตที่เป็นบริการเวิล์ดไวด์เว็บ
Hyper Text Transport
Protocol (HTTP)กฎเกณฑ์การส่งไฮเพอร์เท็กซ์ (เอชทีทีพี)
มาตรฐานอินเทอร์เนตที่สนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูล บนเวิลด์ไวด์เว็บ โดยการกำหนดที่ตั้งทรัพยากรที่สอดคล้องกัน รวมถึงแฟ้มที่เข้าถึงได้ในกฎเกณฑ์การถ่ายโอนแฟ้ม (File Transfer Protocol : FTP)
มาตรฐานอินเทอร์เนตที่สนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูล บนเวิลด์ไวด์เว็บ โดยการกำหนดที่ตั้งทรัพยากรที่สอดคล้องกัน รวมถึงแฟ้มที่เข้าถึงได้ในกฎเกณฑ์การถ่ายโอนแฟ้ม (File Transfer Protocol : FTP)
กฎเกณฑ์การส่งไฮเพอร์เท็กซ์ ให้ผู้เขียนเว็บสามารถฝังจุดเชื่อมโยงหลายมิติ
(hyperlink) ในเอกสารในเว็บได้ เมื่อคลิกแล้ว จุดเชื่อมโยงจะเริ่มกระบวนการถ่ายโอนข้อมูลซึ่งเข้าถึงและค้นคืนเอกสารให้โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องทำสิ่งใด โดยไม่ต้องทราบว่าเอกสารนั้นมาจากที่
ใดหรือเข้าถึงได้อย่างไร
ภาษา
HTML (Hyper Text Markup Language)
เป็นภาษาคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง
ที่มีลักษณะเป็นภาษาในเชิงการบรรยายเอกสารแบบไฮเปอร์มีเดีย (hypermedia
document description language)
host แม่ข่าย
, แม่งาน คอมพิวเตอร์เครื่องใดๆ ในอินเทอร์เน็ตที่สามารถทำงานเป็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดในการถ่ายโอนข้อมูล
คอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่นี้จะมีเลขอยู่ (เรียกว่า IP
address) และชื่อเขตเป็นของตนเอง
วิธีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
*การเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแบบต่างๆ
*การเชื่อมต่อแบบหมุนโทรศัพท์
( Dial up connection )
*ISDN (Integrated Services Digital Network)
*ADSL (Asymmetric Digital Subscriber Line)
*Cable Modem
*Satellite
*Leased Line
*WiFi
*WiMax
*Air card
โปรแกรมค้นหา
(Search
Engine) เป็นโปรแกรมที่คอยอ่านข้อมูลแต่ละหน้าหรือเว็บเพจจากเว็บไซต์ต่าง
ๆ โดยอัตโนมัติ
จากนั้นจึงนำเว็บเพจที่อ่านได้มาทำดัชนีเก็บไว้ในฐานข้อมูล
เป็นเครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลหรือเว็บเพจ ,
เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่ค้นหาข้อมูลรูปภาพ หรือเว็บเพจ ในรูปแบบเท็กซ์
หรืออื่นๆ
l โปรแกรมค้นหาแบบศัพท์ดัชนี (Index Search Engine)
l โปรแกรมค้นหาแบบศัพท์อิสระ (Keyword
Search Engine)
l โปรแกรมค้นหาแบบหลายโปรแกรม (Meta
Search Engine)
l บัญชีรายชื่อเว็บไซต์(Web
Directory)
เป็นโปรแกรมที่คอยอ่านข้อมูลแต่ละหน้าหรือเว็บเพจจากเว็บไซต์ต่าง
ๆ
จากนั้นจึงนำเว็บเพจที่อ่านได้มาทำดัชนีเก็บไว้โดยอัตโนมัติเว็บไซต์ที่ให้บริการโปรแกรมค้นหาจะถูกเขียนขึ้นให้มีโปรแกรมประเภทโรบอท(Robot)
สไปเดอร์(Spider) ครอเลอร์(Crawler) ทำหน้าที่เข้าไปสำรวจในเว็บไซต์ต่าง ๆ แล้วนำคำสำคัญที่มีในหน้านั้น ๆ
มาทำเป็นดัชนี เพื่อส่ง URL ของเว็บนั้น ๆ
มาแสดงให้ผู้ใช้ทราบ
เทคนิคการค้นข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
1.
คำที่ใช้ค้นเรียกว่า คำค้น (KEYWORD)
2.
คำค้นควรให้ตรงประเด็น หรือ คำใกล้เคียง
3.
เลี่ยงการใช้คำพูด ตัวเลขในการค้น ถ้าจำเป็นใช้
“..........”
4.
การใช้เครื่องหมาย
+ และ –
"+" หมายถึง การระบุให้ผลลัพธ์ของการค้นหาต้องมีคำนั้นปรากฏอยู่ในหน้าเว็บเพจ +เศรษฐกิจ +การเมือง หมายถึง หน้าเว็บเพจที่พบจะต้องปรากฎคำว่า "เศรษฐกิจ" และ "การเมือง"
อยู่ในหน้าเดียวกันทั้งสองคำ
"-" หมายถึง เป็นการระบุให้ผลลัพธ์ของการค้นหาต้องไม่ปรากฎคำนั้น อยู่ในหน้าเว็บเพจ
เช่น โรงแรม -รีสอร์ท หมายถึง หน้าเว็บเพจนั้นต้องมีคำว่า โรงแรม
แต่ต้องไม่ปรากฎคำว่า รีสอร์ท อยู่
โดยการใช้งานต้องอยู่ในรูปของ
A -B หรือ +A -B โดย A และ
B เป็นคำหลักที่ต้องการค้นหา ตัวอย่าง +มะม่วง
-มะม่วงอกร่อง -มะม่วงน้ำดอกไม้
หมายถึง
หน้าเว็บเพจที่พบจะต้องปรากฎคำว่า "มะม่วง" แต่ต้องไม่ปรากฎคำว่า "มะม่วงอกร่อง" และ "มะม่วงน้ำดอกไม้"
อยู่ในหน้าเดียวกัน
มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต
1.
ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย
หรือละเมิดผู้อื่น
2.
ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น
3.
ต้องไม่สอดแนม แก้ไข
หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
4.
ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
5.
ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
6.
ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
7.
ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
8.
ต้องไม่นำผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน
9.
ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมที่เกิดจากการกระทำของท่าน
10.
ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบ
กติกา และมีมารยาท
(บัญญัติ 10
ประการของการใช้อินเทอร์เน็ต : ยืน ภู่วรวรรณ)
อินทราเน็ต (INTRANET)
อินทราเน็ต เป็นการจำลองลักษณะของอินเทอร์เน็ตมาเป็นเครือข่ายภายในและใช้งานโดยบุคคลากรของบริษัทผู้คนในบริษัทจะทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลในองค์กรเฉพาะเครือข่ายของบริษัทตนเท่านั้น
ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรอื่น ทั้งที่อยู่ในสำนักงานเดียวกันหรือต่างสาขา
หรือจะอยู่คนละภูมิภาคก็สามารถสื่อสารกัน (Interfacing) ได้ เหมือนอินเทอร์เน็ตทั่วไป
ด้วย Function การ Log-in มีระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ มี Account ให้พนักงานแต่ละคนใช้ส่วนตัว
มีระบบโต้ตอบและสนทนาได้อัตโนมัติ
Intranet เป็นเว็บไซต์ที่อยู่ภายในบริษัท พนักงานสามารถเข้ามาใช้งานได้ แต่บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าใช้ได้ ข้อมูลในเว็บไซต์อาจจะบันทึกการทำงาน
การขาด หรือลาป่วย ของพนักงาน แต่ละคน ซึ่งสามารถเข้ามาเช็คได้... ข้อดีของอินทราเนต
ได้แก่การเป็นส่วนตัว (Privacy) ในระดับองค์กร แต่ในขณะเดียวกันสามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตภายนอกได้ โดยอาศัย Protocol มาตรฐาน TCP/IP เหมือนกัน
เอ็กซ์ทราเน็ต (EXTRANET)
เอ็กซ์ทราเน็ต
เป็นอีกลักษณะของระบบเครือข่ายที่เป็นระบบสารสนเทศระหว่างองค์กร
(Inter-Organization ; I-OIS) ใช้สำหรับการติดต่อสื่อสารข้อมูลระหว่างองค์กรที่มีความสัมพันธ์กัน
ต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ติดต่อธุรกรรมกันเป็นประจำ ระหว่างพนักงาน บริษัทคู่ค้า บริษัทลูกค้า
หรือบริษัทที่เป็นพันธมิตรกัน
ระบบเอ็กทราเนตอาศัยโครงสร้างของอินทราเนตและอินเทอร์เน็ตในสื่อสารระหว่างองค์กรซึ่งจะต้องมีการเข้ารหัสต่างๆ
เพื่อขออนุญาตเข้าใช้เครือข่าย มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กรระหว่างกัน นิยมใช้ในกลุ่มธุรกิจที่มีลักษณะเป็นพันธมิตรทางการค้า (Alliance) ที่อาศัยข้อมูลร่วมกัน
(Collaboration Commerce; C-Commerce) เช่น ข้อมูลสต็อกสินค้า
ข้อมูลลูกค้า และมีฟังก์ชั่นการทำงานในลักษณะโต้ตอบสนทนาแบบ
Real time
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น